โครงการนิทานในสวน

หลักการและเหตุผล

พ่อแม่ ผู้ปกครอง เป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับเด็กมากที่สุด รวมถึงเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและผลักดันให้แนวความคิดเรื่องการพัฒนาเด็กปฐมวัยด้วยหนังสือ เกิดขึ้นได้จริง จนกลายเป็นวัฒนธรรมการเลี้ยงลูกด้วยหนังสืออย่างยั่งยืนในสังคมไทย

เพื่อขยายแนวคิดการพัฒนาเด็กปฐมวัยด้วยหนังสือสู่พ่อแม่ ผู้ปกครอง และสังคม ในวงกว้าง มูลนิธิซิเมนต์ไทยได้จัดโครงการเทศกาลนิทานในสวนเป็นประจำทุกปี เพื่อรณรงค์และให้ความรู้ให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง รับรู้และเข้าใจถึงเทคนิค วิธีการของการเล่านิทานอ่านหนังสือเพื่อพัฒนาเด็ก รวมถึงใช้เทศกาลนี้เป็นเครื่องย้ำเตือนกับผู้เกี่ยวข้อง

การดำเนินงาน

มูลนิธิซิเมนต์ไทย ร่วมมือกับ มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก และ กรุงเทพมหานคร จัดงานเทศกาลนิทานในสวนช่วงเย็นวันเสาร์ของเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ทุกปี ที่สวนสาธารณะ ในกรุงเทพมหานครสองแห่ง คือ สวนลุมพินี เขตปทุมวัน และ สวนวชิรเบญทัศ (สวนรถไฟ) เขตจตุจักร โดยจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 โดยในปี พ.ศ. 2550 ใช้แนวคิดว่า “หนังสือคือดวงตา ปัญญาคือความสุข”

ในงานมีกิจกรรม ดังนี้

• การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการพัฒนาเด็กปฐมวัยด้วยหนังสือให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ได้แก่ การเสวนา โดยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กปฐมวัย
• การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาการเลี้ยงดูบุตร การแนะนำเทคนิคการเล่านิทาน วิธีการใช้หนังสือภาพกับเด็ก
• กิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการเด็กปฐมวัย ได้แก่ ละครนิทานจากคณะนิทาน ซึ่งจะช่วยพัฒนาจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก
• กิจกรรมงานประดิษฐ์ที่ให้เด็ก ๆ ได้ทดลองสร้างสรรค์ของเล่นจากวัสดุเหลือใช้
• ห้องสมุดเคลื่อนที่ที่บรรจุหนังสือภาพคัดสรรจำนวนมาก เพื่อให้เด็กได้รู้จักคุ้นเคยกับ การอ่านหนังสือคุณภาพดี โดยมีอาสาสมัครด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัยมาให้คำแนะนำผู้ปกครองถึงวิธีการเล่านิทาน อ่านหนังสือให้เด็กฟัง
• การจับสลากหาผู้โชคดีในช่วงท้ายเพื่อมอบถุงของขวัญ “หนังสือคือความสุข”

ผลที่ได้รับ

โครงการเทศกาลนิทานในสวนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ดังจะเห็นได้จากจำนวนผู้ร่วมงานที่เพิ่มขึ้นทุกปี หลายครอบครัวรับรู้ถึงแนวคิดการพัฒนาเด็กปฐมวัยด้วยหนังสือ เป็นครั้งแรก และมีหลายครอบครัวที่ติดตามข่าวสาร มาร่วมโครงการเป็นประจำ ตลอดจน นำแนวคิดการเล่านิทาน อ่านหนังสือให้เด็กปฐมวัยฟังไปปฏิบัติตามอย่างสม่ำเสมอ

ทั้งนี้ ผู้ปกครองทั้งสองกลุ่มต่างแสดงความคิดเห็นว่า นอกจากเทศกาลนิทานในสวนจะช่วยจุดประกายให้บุตรหลานของตนมีอุปนิสัยรักการอ่านและการใฝ่เรียนรู้แล้ว การเข้าร่วมโครงการยังช่วยเสริมสร้าง สายสัมพันธ์ของครอบครัวให้กระชับแน่นแฟ้นขึ้น

อนึ่ง ผู้ปกครองที่ตอบแบบสอบถาม ร้อยละ 96.49 ระบุว่า จะนำเทคนิคการเล่านิทาน อ่านหนังสือ และการใช้หนังสือภาพกลับไปปรับใช้กับ ลูก ๆ ของตน

โครงการเทศกาลนิทานในสวนจึงเป็นอีกโครงการหนึ่งของมูลนิธิซิเมนต์ไทยที่สามารถสร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้พ่อแม่ผู้ปกครอง ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัย ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการเล่านิทาน อ่านหนังสือให้เด็กฟัง ผ่านกิจกรรมที่มีประโยชน์ภายในงาน ซึ่งเป็นการวางรากฐานวัฒนธรรมการเลี้ยงลูกด้วยหนังสือให้หยั่งรากลึกในสังคมไทย