“ต้อง 11 ..7 อย่า” คัมภีร์ในการสร้างลูกรักให้เป็นนักอ่าน (1) โดย ตุ๊บปอง
ลูกรักเป็นนักอ่านแน่ ถ้าพ่อแม่มี ต้อง 11 ..7 อย่า
ต้อง 11
ต้องที่ 1 ต้องชักชวนลูกน้อยให้อ่านหนังสือ
การชักชวนที่ดีที่สุด และง่ายที่สุดคือ การที่พ่อแม่อ่านออกเสียงดัง ๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจ หรือชักชวนลูกน้อยให้มาเปิดหนังสือร่วมกัน ชวนพูดชวนคุยถึงภาพที่ลูกเห็นในหนังสือ ทั้งเรื่องสี รูปทรง จำนวนนับ หรืออาจจะใช้ภาพสอนส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น กุ๊กไก่มีขากี่ขา..แล้วหนูมีกี่ขาเนาะ..นับ 1 .. 2 มี 2 ขาเท่ากันเลย กุ๊กไก่มีขาเอาไว้ทำอะไรนะ..เอาไว้เดินเหมือนหนูเลย
ท่าทีในการอ่านที่พ่อแม่อ่านกับลูกที่หลากหลาย..ไม่จำกัดรูปแบบ จะสร้างความสบายอกสบายใจให้ลูกมาร่วมวงฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ ไม่ว่าจะอยู่ในท่าไหน อยู่บนตัก โผล่มาจากด้านหลัง โผล่มาจากใต้รักแร้ เอนหลังนั่งอ่านด้วยกัน แล้วให้ลูกคอยช่วยเปิดหนังสือทีละหน้าทีละหน้า พ่อกับแม่จะผลัดกันอ่านคนละหน้าสอง หน้าก็ไม่ผิดกติกาอะไร..ดีเสียอีก ทุกคนจะได้มีความสุขร่วมกันในโลกของหนังสือ หรือการนั่งประจันหน้า อ่านไปมองหน้ากันไปก็เป็นสุขทั้งพ่อแม่ลูก ลูกจะได้เห็นปากของพ่อแม่ เวลาขยับพูด แล้วจำไว้เป็นแบบอย่างในการเปล่งเสียงตาม
ต้องที่ 2 ต้องแสดงท่าทางที่เป็นสุข
พ่อแม่ต้องแสดงท่าทางที่เป็นสุข และกระตือรือร้นในทุกครั้งที่หยิบหนังสือมาอ่านกับลูก เพื่อลูกจะได้รับความสุขสนุกสนานสำราญใจในการอ่านหนังสือไปด้วย ทำให้ช่วงเวลาของการอ่านหนังสือร่วมกันประสาพ่อแม่ลูกให้เป็นช่วงเวลาหรรษาของครอบครัว
พ่อแม่ต้องทำตัวให้เป็นธรรมชาติสบาย ๆ โดยเฉพาะเวลาที่ลูกตั้งคำถาม หรือแสดงความสงสัยพร้อมมีพฤติกรรม ใหม่ ๆ ที่ดูแปลก ๆ ก็ไม่ควรตื่นเต้น หรือขบขันกับท่าทางที่ตลก ๆ ของลูก จนออกนอกหน้า เพราะจะทำให้ลูกเกิดความสงสัย ลังเลใจ และไม่มั่นใจในการใช้เวลาในการอ่านหนังสือร่วมกับพ่อแม่ในครั้งต่อไป
เมื่อท่าทางที่เป็นสุขแล้ว ก็เริ่มอ่านได้อ่านดี..อ่านดังฟังชัด พ่อแม่และลูกช่วยกันเลือกหนังสือสนุก ๆ ที่ลูกชอบมาผลัดกันอ่านให้ลูกฟังแล้วกระตุ้นให้ลูกออกเสียงตาม หรือถ้าลูกจำคำบางคำ ประโยคบางประโยคหรือจำเรื่องราวได้ก็ให้ออกเสียงดัง ๆ ทำเสมือนอ่านได้ไปกับพ่อแม่ หนังสือดี ๆ ที่ตลก ๆ ใช้คำที่สละสลวย นั้นจะยิ่งทำให้ลูกสนุกสนานกับการอ่านมากขึ้น